เรื่องมรดกไม่ได้ไกลตัวอย่างที่คิดคนส่วนใหญ่มักคิดว่าจะเริ่มคิดถึงแผนมรดกให้ลูกหลานตอนอายุ 60 - 80 ปีซึ่งอาจจะช้าเกินไป จริงๆ แล้วหากมีอายุ 30 - 40 ปี แต่แต่งงานมีครอบครัว มีลูกเล็กๆ แล้ว ก็ควรคิดถึงการจัดทำแผนมรดกถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นก่อนวัยอันควรก็จะได้มั่นใจว่าทรัพย์สินที่เรามีอยู่จะได้ตกถึงมือคนที่เราอยากมอบให้จริงๆ
การจัดทำมรดกเราสามารถแบ่งง่ายๆเป็น 3 ขั้นตอนหรือเรียกว่า 3W (WWW = What Who When)
- What หมายถึง เรามีทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง ในขั้นตอนนี้สิ่งที่ต้องทำ คือ การจัดทำบัญชีทรัพย์สิน โดยระบุทรัพย์สินที่มีทุกอย่างออกมาและแยกประเภทให้ชัดเจน เช่น ทรัพย์สินทางการเงินต่างๆ (FinancialAsset) หุ้น กองทุนตราสารหนี้ เงินฝาก ทุนประกันชีวิต และทรัพย์สินที่จับต้องได้(Real Asset) เช่นอสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ทองคำ เครื่องประดับ
- Who คือ ผู้ที่เราต้องการให้เป็นทายาทของทรัพย์สินประเภทต่างๆตามความเหมาะสม เช่น ลูกคนโตมีความสามารถในการบริหารธุรกิจก็ต้องวางแผนส่งมอบธุรกิจส่วนตัวพร้อมเงินฝากจำนวนหนึ่งให้ลูกคนกลางมีความรู้เรื่องการลงทุน ก็อาจมอบพวกหุ้น กองทุน ตราสารหนี้ให้ดูแลต่อและลูกคนเล็กยังเด็กอยู่ ก็อาจจะเน้นเป็นพวกเงินฝาก และทุนประกันชีวิตมอบให้เพื่อให้สามารถเรียนจบและสามารถหาเลี้ยงชีพด้วยตัวเองได้
- When เป็นเวลาที่เหมาะสมของเป้าหมายต่างๆที่มีผลต่อจำนวนของทรัพย์สินที่จะเป็นมรดก เช่น หากวันนี้เราเกษียณแล้วและมีพอร์ตการลงทุนอยู่จำนวนหนึ่ง จะต้องแบ่งออกมาเป็นพอร์ตที่นำมาใช้สร้างรายได้สำหรับเงินเกษียณของเราเองก่อนจากนั้นจึงคำนวณหาเงินทุนส่วนเกินจากแผนเกษียณไปสร้างเป็นแผนมรดกด้วยสินทรัพย์หลายๆ ชนิดผสมกัน แผนมรดกแบบผสมผสานสินทรัพย์บางแผนสามารถขยายทุนมรดกได้ เช่น มีเงินทุนมรดกอยู่เพียง 10 ล้านบาท แต่มีลูก 2 คน ก็สามารถเพิ่มและล็อคมูลค่าของเงิน ทำให้ลูกๆได้มรดกคนละ 10 ล้านบาทได้(รวม 20 ล้านบาท)เมื่อเวลานั้นมาถึง
สามขั้นตอนนี้จะต้องทำอย่างละเอียดและคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก นอกจากนี้ควรทบทวนขั้นตอนต่างๆ ทุกปี รายการทรัพย์สินมักจะมีความเปลี่ยนแปลงในแต่ละปีเนื่องจากมูลค่าของหลักทรัพย์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอทายาทที่เหมาะสมกับทรัพย์สินแต่ละอย่างก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ และระยะเวลาการใช้เงินของเป้าหมายอื่นๆที่เพิ่มขึ้นมาหรือลดลงไป จะเป็นปัจจัยสำหรับปรับทุนมรดกที่เหมาะสมในแต่ละปี