เวลา 3 เดือนผ่านไปในปี 2020 ไวเหมือนโกหก ตอนนี้เข้าสู่ไตรมาส 2 เป็นที่เรียบร้อย แต่ที่ไวกว่าก็คือการปรับลดลงของตลาดหุ้น SET Indexจาก 1600 จุดในช่วงต้นปีดิ่งลงมาที่ 970 จุดภายในไม่กี่สัปดาห์ จากไวรัส COVID-19 และ ราคาน้ำมันที่ลดลง เป็นตัวกระตุ้นหลัก หลายคนที่มีหุ้นหรือกองทุนรวมอยู่ในพอร์ทการลงทุนของตัวเองอยู่ต้องติดลบขาดทุนกันถ้วนหน้า ทำให้เรามีทรัพย์สินที่น้อยลง กระทบกับแผนการเงิน และการใช้เงินของเรา
ถามว่าแผนการเงินไหนที่กระทบกับทุกคนแน่ๆนั่นก็คือแผนการเกษียณอายุ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่มีการคำนวณมาเป็นอย่างดี มีการคิดลดอัตราเงินเฟ้อร่วมด้วยหรือจะเป็นแผนง่ายๆ ที่เก็บเงินไปเรื่อยๆให้ได้มากที่สุดผมขอแบ่งกลุ่มคนที่จะเกษียณเป็น2กลุ่มนะครับ
กลุ่มที่สอง คือคนที่กำลังจะเกษียณอายุภายใน5ปี
กลุ่มนี้ควรจะมีสัดส่วนในการลงทุนในหุ้นที่น้อยอยู่แล้วแต่หากไม่เป็นเช่นนั้นการขายหุ้นในยามที่เราจะเกษียณอันใกล้นี้ จะส่งผลให้เราต้องขายสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่และมีมูลค่าติดลบมาใช้เป็นอะไรที่ทำใจรับได้ยาก และถึงแม้ว่าจะรับได้แต่ถามว่าจะมีเพียงพอให้เรามีคุณภาพชีวิตหลังเกษียณที่ดีในระยะยาวก่อนสิ้นลมหายใจหรือไม่(แต่ถ้าหากอยากคำนวณมูลค่าเงินเกษียณอย่างถูกต้องปรึกษาเราได้นะครับทักข้อความส่วนตัวมาได้เลยครับ)
ขายของเสร็จแล้ว มาฟังวิธีแก้ปัญหาของเรากันดีกว่าหากคุณต้องเกษียณในเร็ววันนี้
แหล่งทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่จะใช้ในการเกษียณจะมาจาก
1.เงินประกันสังคมที่จะได้ในยามเกษียณซึ่งไม่ได้เยอะอะไร
2.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือ กบข.ที่เราหักทุกเดือนจากการรับเงินเดือน
3.เงินชดเชยตามกฎหมาย 400 วัน
4.กองทุนหรือประกันต่างๆที่ครบกำหนดตามกฎหมายอาจจะซื้อเพื่อการออมหรือลดหย่อนภาษีก็ตาม
5.เครดิตเงินปันผลในปีสุดท้ายของการทำงาน
6.บำเหน็จบำนาญ ของข้าราชการ
7.สินทรัพย์ที่เราสะสมมาได้จากการทำงานทั้งชีวิตเช่น ที่ดิน คอนโด รถยนต์ เงินปันผล และ อื่นๆ
เราควรถามตัวเองว่าแหล่งทรัพย์สินนั้นพอหรือไม่ถ้าหากไม่พอ ให้เราลองหาจากแหล่งอื่นเพิ่มเติมอีกถ้าก่อนเกษียณเรามีรายได้มากกว่า1ทางและสามารถก่อให้เกิดรายได้แม้ว่าเราจะเกษียณไปแล้ว เช่น ค่าเช่า ธุรกิจส่วนตัวหรือ เงินปันผลนับว่าเราจะมีกระแสเงินสดที่เข้ามารองรับเราในยามเกษียณเพียงพอที่จะผ่านพ้นช่วง COVID-19และตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ถ้าคุณไม่ได้มีรายได้ทางอื่นและมีเงินไม่พอที่จะเกษียณอายุยังไงคุณก็ยังต้องหารายได้ต่อไปแม้จะเกษียณแล้วก็ตาม ช่วงเวลาที่ได้ Work from homeเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส อย่าติดกับดักความสบายแค่ชั่วครู่ทุกวินาทีที่ผ่านไปในชีวิตคุณนั้นสำคัญ ลองคิดหางานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ตัวเองชอบถ้าสิ่งนั้นก่อให้คุณมีรายได้ จงฝึกให้เชี่ยวชาญ และนำมาประกอบอาชีพหลังเกษียณ
การก้าวออกจากComfort zoneนั้นน่ากลัวแต่ถ้าคุณมีชีวิตอยู่โดยปราศจากเงินแม้แต่จะกินข้าวนั้นน่ากลัวกว่าหวังว่าบทความนี้จะกระตุ้นและเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ในยามวิกฤติไวรัสเช่นนี้